ดื่มแอลกอฮอล์แล้วหน้าแดง สัญญาณร้ายของสุขภาพ
สำหรับคนที่ ดื่มแอลกอฮอล์ แล้วผ่านไปสักพักนั้นหลายคนนั้นมีอาการหน้าแดงตัวแดงหรือบางคนแดงไปทั้งหมด ส่วนมากจะเกิดขึ้นโดยเฉพาะคนในเอเชียตะวันออก อย่างเช่นคนจีน คนญี่ปุ่น และคนเกาหลี เป็นส่วนใหญ่ ที่เมื่อดื่มแอลกอฮอล์ โดยมีอัตราเฉลี่ยสูงถึงราว 35 % เลยทีเดียว จะมีอาการหน้าแดง หลายคนนั้นดื่มสุราเพียงเล็กน้อยก็เกิดอาการแล้ว และนอกจากจะหน้าแดงคอแดง บางคนยังแดงไปทั่วทั้งตัวอีกด้วย ซึ่งอาการแดงจะเห็นผลได้ชัดมากกับคนผิวขาวอยู่แล้ว แต่คนที่มีอาการแบบนี้อาจจะรู้สึกวิงเวียน คลื่นไส้ รู้สึกร้อนวูบวาบ หัวใจเต้นเร็ว หายใจไม่ทัน และปวดศีรษะ แบบฉับพลัน
จากการศึกษาค้นคว้านักวิทยาศาสตร์กล่าวว่า สาเหตุ คือ เกิดจากความแตกต่างทางด้านพันธุกรรมของเราแต่ละคน เพราะคนที่มีอาการดังกล่าวนั้นมี gene(ยีน)หรือเชื้อพันธุ์ตัวหนึ่งที่มีชื่อว่า AL-DH2 ที่เกิดความบกพร่องซึ่งจะทำให้ร่างกายของคนเหล่านั้นรับแอลกอฮอล์แล้วมีปฏิกิริยาต่อแอลกอฮอล์ต่างไปจากคนอื่นที่มียีน ปกติและดื่มด้วยกันนักวิจัยเตือนว่าผลกระทบเรื่องนี้อาจจะทำให้เป็นอันตรายมากไปกว่าเพียงแค่หน้าแดงตัวแดงอย่างเดียว เพราะมีความเกี่ยวเนื่องกับความเสี่ยงต่อการเกิดเป็นโรคมะเร็งหลอดอาหารด้วย ถ้าหากยิ่งดื่มแอลกอฮอล์มากขึ้นเท่าไหร่ ก็ยิ่งมีความเสี่ยงมากขึ้นเท่านั้น อย่างในญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ นักวิจัยพบว่าคนที่มียีนหรือเชื้อพันธ์ AL-DH2 บกพร่องที่ดื่มจัด มีอัตราเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งหลอดอาหารมากกว่าคนอื่นราว 6 – 10 เท่า เลยทีเดียวซึ่งอันตรายอย่างมาก
มะเร็งหลอดอาหารเป็นเนื้อร้าย ที่เป็นอันตรายทำให้คนเสียชีวิตมากชนิดหนึ่งแต่อาจบำบัดรักษาได้หากตรวจพบแต่เนิ่นๆแต่หากเนื้อร้ายขยายตัวแล้วโอกาสมีชีวิตรอดจะลดลงอย่างมากนักวิจัยประมาณว่าคนที่มียีนหรือเชื้อพันธ์ AL-DH2 บกพร่องนั้น มีอยู่ราว 550 ล้านคน หรือราว 8 % ของประชากรโลกซึ่งถือว่าค่อนข้างมากทีเดียว
นักวิจัยสถาบันโรคพิษสุราเรื้อรัง National Institute on Alcohol Abuse and Alcoholism ในสหรัฐกล่าวว่า เป็นเรื่องสำคัญมากที่จะต้องรีบเตือนและให้ความรู้แก่ประชาชนเกี่ยวกับความเกี่ยวโยงระหว่างอาการหน้าแดงตัวแดงเมื่อดื่มเครื่องดื่มที่มีส่วนผมแอลกอฮอล์ทุกชนิดกับการเป็นมะเร็งหลอดอาหารนอกจากนั้นนักวิจัยเตือนว่าการสูบบุหรี่และดื่มแอลกอฮอล์ก็มีความเสี่ยงมากขึ้นต่อการเป็นมะเร็งหลอดอาหารเช่นกันหากคนที่กินเหล้าแล้วตัวแดงหรือเกิดอาการคันนั้นควรกินให้น้อยลงและหลีกเลี่ยงเพราะอาจเกิดโรคร้ายในอนาคตได้
