ดื่มแอลกอฮอล์แบบไม่ผิดกฏหมายทำได้จริงหรอ
สุรา คือ เครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์เป็นส่วนผสมหลัก สังคมไทยปจัจุบันนี้นิยมดื่มกันอย่างมากและแพร่หลายปริมาณของแอลกอฮอล์ที่มีอยู่ในเครื่องดื่มแต่ละอย่างมีมากน้อยแตกต่างกันอย่างไร เช่น
ชนิดของเครื่องดื่ม ปริมาณของเอทิลแอลกอฮอล์ (ร้อยละหรือ ดีกรี)
เหล้าชนิด เบียร์ 4 - 7
เหล้าชนิด สาโท 7 - 15
เหล้าชนิด กระแช่ 10 -12
เหล้าชนิด อุ 10
เหล้าชนิด ไวน์ 10 – 15
เหล้าชนิด สุราไทย 28 – 40
เหล้าชนิด วิสกี้ บรั่นดี 40 – 50
และเมื่อดื่มเข้าไปแล้ว แอลกอฮอล์จะดูดซึมเข้าสู่ลำไส้และกระเพาะอาหาร การตรวจหาแอลกอฮอล์ในเลือดตรวจได้ในเวลา 5 นาที หลังจากสิ้นสุดการดื่มขณะท้องยังว่าง ระดับของแอลกอฮอล์จะสูงขึ้นมากในเวลา 30-45นาที หลังดื่ม อาหารที่รับประทานก่อนการดื่มสุราจะมีผลทำให้ระดับแอลกอฮอล์ในเลือดลดลง และ เนื่องจากปัจจุบันมีอุบัติเหตุเกิดขึ้นมาอย่างมากมายและอุบัติเหตุที่เกิดส่วนใหญ่มาจากการที่ผู้กระทำผิด นั้น เกิดอาการเมาค้างคือผู้ที่ดื่มแอลกอฮอล์เข้าไปในร่างกายจำนวนมากทำให้เกิดการสูญเสีย พิการ เจ็บ ทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพยายามกำหนดมาตรการลดอุบัติเหตุ โดยการรณรงค์สร้างจิตสำนึกของผู้ขับขี่ และกำหนดระดับแอลกอฮอล์ในเลือดสำหรับผู้ขับขี่ไม่ให้เกิน 50 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ ตามประกาศกฎกระทรวงมหาดไทยฉบับที่ 16/2537 ผู้ฝ่าฝืนจะต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 เดือน หรือปรับตั้งแต่ 2,000 ถึง 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
และจากการวิจัยในหลายๆอย่าง จุดประสงค์ของการวิจัยครั้งนี้เกิดขึ้นจากที่ คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล ต้องการทราบว่าผู้ขับขี่ สามารถดื่มแอลกอฮอล์เข้าไปในปริมาณเท่าไรจึงจะขับขี่กลับบ้านได้อย่างปลอดภัย และผลการวิจัยเผยว่า ภายหลังดื่มเบียร์ 8 ดีกรี ปริมาณ 1 กระป๋อง (330 มิลลิลิตร) ไวน์ไทย หรือ เครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ 5 ดีกรี ปริมาณ 1 กระป๋อง (330 มิลลิลิตร) จะมีระดับแอลกอฮอล์ในเลือดน้อยกว่า 50 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ ถ้าดื่มเบียร์ 8 ดีกรี ปริมาณ 2 ขวด (1,260 มิลลิลิตร) ระดับแอลกอฮอล์ในเลือดจะเกิน 50 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ และหลังดื่ม 2 ชั่วโมง ก็ยังมีระดับแอลกอฮอล์มากกว่า 50 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ ปริมาณการดื่มเบียร์ 1 ขวด (630 มิลลิลิตร) หรือเบียร์ 2 กระป๋อง ระดับแอลกอฮอล์ในเลือดอาจมากกว่าหรือน้อยกว่า 50 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ ขึ้นอยู่กับน้ำหนักของผู้ดื่มเป็นสำคัญ ผู้ดื่มน้ำหนักตัว 60 – 69 กิโลกรัม ค่าเฉลี่ยระดับแอลกอฮอล์ในเลือด 50 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ ถ้าผู้ดื่มน้ำหนักน้อยกว่านี้ระดับแอลกอฮอล์จะเกิน 50 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ และอัตราการทำลายของแอลกอฮอล์ใน 1 ชั่วโมง ร่างกายจะกำจัดแอลกอฮอล์ได้ 15 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ กล่าวคือ ถ้ามีระดับแอลกอฮอล์ในเลือด 50 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ เมื่อเวลาผ่านไป 1 ชั่วโมง ระดับแอลกอฮอล์จะเหลือ 35 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์
จากกรณีที่ดื่มสุราชนิดอื่น ระดับแอลกอฮอล์ในเลือดก็ขึ้นอยู่กับน้ำหนักหรือรูปร่างของผู้ดื่มเช่นเดียวกัน เครื่องดื่มประเภทวิสกี้ 35 ดีกรี และ 43 ดีกรี ผู้ดื่มที่มีส่วนสูง 170 ซม. น้ำหนักมากกว่า 50 กก. สามารถดื่มวิสกี้เท่ากับ 100 มิลลิลิตร และ 80 มิลลิลิตร ตามลำดับ ส่วนผู้หญิงสูงเฉลี่ย 158 ซม. น้ำหนัก 45 – 60 กิโลกรัมดื่มวิสกี้เท่ากับ 40 มิลลิลิตร และ 60 มิลลิลิตร (1 ฝาเท่ากับ 10 มิลลิลิตร) เครื่องดื่มประเภทไวน์ 10-12 ดีกรี ผู้ดื่มที่มีส่วนสูง 170 ซม. น้ำหนัก 50 กก. ปริมาณที่ดื่ม 300 มิลลิลิตร สำหรับ ผู้หญิงสูงเฉลี่ย 160 ซม. น้ำหนัก 45 – 60 กิโลกรัมปริมาณที่ดื่ม 170 มิลลิลิตร การดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์จะมีแอลกอฮอล์ที่ค้างอยู่ในปาก 20-25 นาที ถ้ามีการตรวจวัดระดับแอลกอฮอล์จากลมหายใจจะมีผลทำให้ระดับแอลกอฮอล์สูงกว่าความเป็นจริง ดังนั้นควรบ้วนปากด้วยน้ำเปล่าก่อน เพื่อกำจัดแอลกอฮอล์ที่ค้างอยู่ในปาก